ข้อแตกต่างการใช้งานระหว่าง กรดเกลือ 35% หรือ กรด Hydrocloric 35% กับ pH Minor และ Sodium Bisulfate
อัพเดทล่าสุด: 8 มี.ค. 2025
100 ผู้เข้าชม

ข้อแตกต่างการใช้งานระหว่าง กรดเกลือ 35% หรือ กรด Hydrocloric 35% กับ pH Minor และ Sodium Bisulfate
| pH Minor/ Sodium Bisulfate | กรดเกลือ 35% (Hydrocloric 35%) | ||
| 1 | ความเข้มข้น | 93-98% | 35% |
| 2 | ปริมาณการใช้ | 1.5kg/น้ำในสระ 100 คิว ลดค่า pH = 0.2 |
1 ลิตร/ต่อน้ำในสระ 100 คิว ลดค่า pH=0.1-0.2 |
| 3 | ความปลอดภัย | มากกว่า | น้อยกว่า |
| 4 | การขนส่ง | ง่าย | ลำบาก บริษัทขนส่ง ไม่ค่อยรับส่ง |
| 5 | ราคา | แพงกว่า | ถูกกว่า |
| 6 | ความหลากหลายการใช้งาน | ไม่หลากหลาย | หลากหลายกว่า เช่น ขัดพื้นทำความสะอาด ปรับค่า pH/บำบัดน้ำ |
| 7 | การจัดเก็บ | ง่ายกว่า ที่ต้องเข้มงวดคือความชื้น ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้ |
ต้องจัดเก็บอย่างดี ห้ามวางถังซ้อนกัน ห้ามหล่นกระแทก อากาศต้องถ่ายเทสะดวก ห้ามจัดเก็บในห้องเครื่อง |
บทความที่เกี่ยวข้อง
⭐ แนะนำการเลือก Waterstop ให้เหมาะกับสระว่ายน้ำ
การเลือก Waterstop สำหรับงานสระว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการรั่วซึมบริเวณรอยต่อคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นพื้น–ผนัง รอยต่อเทคอนกรีต หรือจุดที่มีการขยับตัวของโครงสร้าง เช่น Expansion Joint การเลือกขนาดและความหนาที่ถูกต้องช่วยลดปัญหารั่วซึมระยะยาวและยืดอายุการใช้งานของสระได้อย่างมาก
หลักการเลือกคือ ให้สัมพันธ์กับความหนาของผนังหรือพื้นสระ เช่น ผนังสระ 15–20 ซม. เหมาะกับ Waterstop กว้าง 6 นิ้ว ส่วนผนัง 20–25 ซม. ควรใช้รุ่นกว้าง 8 นิ้ว นอกจากนี้จำนวนปุ่มและความหนาก็สำคัญ รุ่น 3 ปุ่มเหมาะกับงานที่ต้องการแรงยึดเกาะสูงหรือมี Movement ในขณะที่รุ่น 2 ปุ่มเหมาะสำหรับงานทั่วไป
Winwinpool แบ่ง Waterstop ออกเป็น 6 รุ่น ได้แก่ Type A, AA, B, BB, C และ CC เพื่อให้เลือกได้เหมาะสมกับประเภทงานและมาตรฐานโครงสร้างของสระว่ายน้ำแต่ละแบบ
คลอรีน 90% เป็นสารฆ่าเชื้อหลักที่จำเป็นสำหรับทุกสระว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นระบบเกลือ น้ำแร่ Ionizer Ozone UV หรือระบบสุขภาพอื่น ๆ เพราะระบบเหล่านั้นทำหน้าที่เป็นระบบรองในการบำบัดน้ำ ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้รวดเร็วเท่าคลอรีน ในกรณีที่น้ำเริ่มขุ่น มีกลิ่น หรือมีผู้ใช้จำนวนมาก ควรเติมคลอรีนเพื่อฟื้นคุณภาพน้ำทันที และควรรักษาระดับคลอรีนขั้นต่ำที่ 0.5 ppm เพื่อป้องกันเชื้อโรคใหม่ที่เข้าสู่สระอย่างต่อเนื่อง การมีคลอรีนสต็อกไว้ที่บ้านช่วยให้คุณรับมือได้ทันเวลาและปกป้องสุขภาพผู้ใช้สระได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ ควรเก็บคลอรีนไว้ในที่แห้ง ห่างความชื้น และปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อคงประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อให้ดีที่สุด หากต้องการคำแนะนำการเลือกคลอรีนหรือปริมาณการใช้เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ทุกเวลา
ทำไมไม่ควรทำ ทรายล้าง ภายในตัวสระว่ายน้ำ
การใช้พื้นผิว ทรายล้างภายในตัวสระ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะ คลอรีนและสารเคมีสระว่ายน้ำจะกัดกร่อนผิวทราย ทำให้เม็ดทรายหลุดออกเรื่อย ๆ เมื่อถูกการไหลเวียนของน้ำ เม็ดทรายเหล่านี้มักถูกดูดเข้าสู่ระบบกรองและไปติดค้างที่ ใบพัดปั๊มน้ำ (Impeller) ส่งผลให้ปั๊มสึกหรอ เร่งการชำรุด และอาจทำให้ระบบกรองเสียหายตามมา
นอกจากนี้ พื้นผิวทรายล้างยัง สะสมตะไคร่ได้ง่าย, ทำความสะอาดยาก, ผิวหยาบอาจเกิดการบาดหรือถลอกขณะใช้งาน และมีโอกาส หลุดร่อนเป็นผง ทำให้น้ำขุ่นและทำให้ต้องล้างระบบบ่อยขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว
คำแนะนำ
ควรเลือกใช้ กระเบื้องโมเสก, กระเบื้องสระชนิดพิเศษ, หรือพื้นเคลือบผิวสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งทนสารเคมี ทำความสะอาดง่าย และยืดอายุอุปกรณ์สระน้ำได้ยาวนานกว่า


